womensocool.com

บทความล่าสุด

  • 6 อาหารคุมน้ำตาลในเลือด เหมาะกับคนเป็นเบาหวานที่สุด

    13 มกราคม 2022
  • น้ำมูกสีไหน บอกอะไรบ้าง คุณกำลังป่วยเป็นอะไรกันแน่

    12 มกราคม 2022
  • 5 ที่ดัดขนตา เนรมิตขนตาให้งอนสวย ดูเป๊ะมากขึ้น

    11 มกราคม 2022
  • สีกระเป๋าสตางค์ เรียกทรัพย์ ใช้แล้วเงินปัง

    10 มกราคม 2022
  • เงินขวัญถุง แบงค์มงคลเรียกทรัพย์

    9 มกราคม 2022
@2020 - All Right Reserved. Designed and Developed by womensocool.com
Author

womensocool

womensocool

สุขภาพ

6 อาหารคุมน้ำตาลในเลือด เหมาะกับคนเป็นเบาหวานที่สุด

by womensocool 13 มกราคม 2022
written by womensocool

เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าผู้ป่วยเบาหวานจะต้องมีการควบคุมอาหาร เพื่อเป็นการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงจนเกินไปนั่นเอง เพราะหากเมื่อไหร่ที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ ได้ และอาจจะเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ด้วย ซึ่งวันนี้เราก็มี 6 อาหารคุมน้ำตาลในเลือดที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานมากที่สุดมาฝากดังนี้ 

อาหารคุมน้ำตาลในเลือด

1.อะโวคาโด

ในอะโวคาโดจะมีกรดไขมันอิ่มตัวเชิงเดี่ยวที่มีผลดีต่อร่างกายทำให้ส่งผลต่อน้ำตาลในเลือด ทั้งยังมีส่วนช่วยในเรื่องของความไวต่ออินซูลิน ซึ่งดีต่อความดันโลหิตทั้ง ยั้งช่วยลดความเสี่ยงต่อภาวะเมแทบอลิกซินโดรม รวมถึงยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจอีกด้วย ทำให้ไม่ต้องกังวลเรื่องระดับน้ำตาลในเรื่องอีกต่อไป 

2.ไขมันปลา 

โดยเฉพาะปลาที่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 , ทูน่า , แซลมอน , ซาร์ดีน , แฮร์ริ่ง , แมกเคอเรล จะมีกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งนอกจากจะสามรถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้แล้วก็ยังสามารถช่วยลดการอักเสบและการเกิดปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ของโรคหัวใจและหลอดเลือดทั้งนี้อาหารประเภทนี้ก็ยังโปรตีนสูงมากอีกด้วย ทำให้มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว 

3.กระเทียม

กระเทียมจะมีแคลอรี่ที่ต่ำมาก ๆ การทานกระเทียมจึงเป็นอีกหนึ่งอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานเนื่องจากสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ที่สำคัญสามารถช่วยลดความดันโลหิตในผู้ป่วยเบาหวานได้ด้วยเช่นกัน 

4.เมล็ดแฟลกซ์ 

เมล็ดแฟลกซ์จะมีอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีมีประโยชน์ต่อหัวใจ ทั้งยังมีไฟเบอร์และใยอาหารชนิดไม่ละลายอีกด้วย หากทานอย่างสม่ำเสมอจะสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีไม่น้อยแน่นอน 

5.ถั่วต่าง ๆ 

ไม่ว่าจะเป็น วอลนัม , อัลมอนด์ , พัสตาชิโอ ถั่เหล่านี้มีคาร์โบไฮเดรตสูงมาก ทั้งยังมีไฟเบอร์สูงอีกด้วย จึงสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีไม่น้อยเลยทีเดียว 

6.ผักใบเขียว

ผักใบเขียวจำพวก ปวยเล้ง , ผักเคล , ผักกาดหอม , บรอกโคลี ถือเป็นผักที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานมาก ๆ เนื่องจากอุดมไปด้วยแมกนีเซียม วิตามินเอ และยังมีไฟเบอร์สูงมากอีกด้วย โดยสารอาหารดังกล่าวจะสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดีมาก ๆ 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยเบาหวานมากที่สุด เพราะฉะนั้นแล้วหากคุณเป็นเบาหวานสามารถทานอาหารดังกล่าวที่เรานำมาแนะนำได้เลย ซึ่งนอกจากจะสามารถควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้แล้วยังเป็นอาหารที่ดีและมีประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย

13 มกราคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
สุขภาพ

น้ำมูกสีไหน บอกอะไรบ้าง คุณกำลังป่วยเป็นอะไรกันแน่

by womensocool 12 มกราคม 2022
written by womensocool

รู้หรือไม่ว่า น้ำมูกสามารถบ่งบอกถึงอาการป่วยของเราได้ ว่ากำลังป่วยเป็นอะไร ติดเชื้อประเภทไหน หรือใกล้จะหายป่วยแล้วหรือยัง ซึ่งจะสังเกตได้ว่าน้ำมูกของเราบางทีก็มีสีที่แตกต่างกันไป ดังนั้นเรามาทำความเข้าใจกันดีกว่า ว่าน้ำมูกสีไหนบ่งบอกถึงอะไรได้บ้าง แบบไหนอันตรายไม่อันตราย 

น้ำมูก

1.น้ำมูกใส 

น้ำมูกใสจะประกอบไปด้วยน้ำแอนติบอดีที่ต่อต้านเชื้อโรค เกลือ และ โปรตีน โดยน้ำมูกสีใสนั้นจะพบได้เมื่อมีการสูดดมฝุ่นและสิ่งสกปรกเข้าไป ทำให้จมูกของเรามีการผลิตน้ำมูกใสออกมาเพื่อเป็นการล้างสิ่งสกปรกที่เข้าไปในจมูก หรือในคนที่เป็นหวัดเมื่อเริ่มมีน้ำมูกใส อาจจะสื่อให้เห็นว่านั่นคือสัญญาณของโรคภูมิแพ้ 

2.น้ำมูกสีเหลือง 

เป็นการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียในโพรงจมูก เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายส่งเซลล์ต้านเชื้อออกมานั่นเอง ส่งผลทำให้เชื้อตายไปปนกับเมือกและหนองต่าง ๆ จึงเกิดเป็นน้ำมูกเหลือง นอกจากนี้การที่น้ำมูกค้างอยู่ในโพรงจมูกเป็นเวลานาน ๆ ในช่วงที่เรานอนหลับจะเกิดการรวมตัวของสารคัดหลั่งทำให้เกิดเป็นน้ำมูกเหลืองแม้จะไม่ได้มีการติดเชื้อใด ๆ ก็ตาม แต่จะเป็นเฉพาะเวลาตื่นนอนเท่านั้น 

3.น้ำมูกสีเขียว 

เราจะพบน้ำมูกสีเขียวได้บ่อย ๆ เมื่อเกิดอาการภูมิแพ้ จากการติดเชื้อไวรัสหรือเชื้อแบคทีเรีย รวมไปถึงโรคไซนัสอักเสบอีกด้วย เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เยื่อบุจมูกบวมและมีการสร้างน้ำมูกมากกว่าปกติ เมื่อร่างการมีการติดเชื้อจะมีการส่งเซลล์เม็ดเลือดขาวมาต่อสู้กับเชื้อ และเซลล์เหล่านี้ก็จะทำให้น้ำมูกเปลี่ยนเป็นสีเขียวหรือสีเหลืองได้ ซึ่งการที่มีน้ำมูกเป็นสีเขียวนั้นหมายความว่ามีการติดเชื้อที่รุนแรงกว่าน้ำมูกสีเหลือง

4.น้ำมูกสีเทา

ส่วนใหญ่เราจะพบน้ำมูกสีเทาในคนที่เป็นโรคภูมิแพ้ ที่ติดเชื้อไวรัส ทั้งยังเจอในคนที่ป่วยเป็นริดสีดวงจมูกอีกด้วย โดยการที่น้ำมูกมีสีเทาก็เกิดจากสารคัดหลั่งเข้มข้นขึ้น ทำให้จากที่มีน้ำมูกสีใส ๆ กลายมาเป็นน้ำมูกสีขุ่นและเป็นสีเทา ซึ่งควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุและทำการรักษา โดยเฉพาะหากเป็นริดสีดวงจมูก จะปล่อยไว้นานๆ ไม่ได้เลยเชียว

ใครมีการเปลี่ยนแปลงสีของน้ำมูกเป็นอย่างไรกันบ้างก็ลองสังเกตตัวเองดู เพราะสีของน้ำมูกสามารถบ่งบอกอาการป่วยได้จริง แต่อย่างไรก็ตามหากรู้สึกป่วยหรือไม่สบายควรพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคที่แม่นยำจะดีกว่า จะได้รักษาได้อย่างถูกต้องนั่นเอง

12 มกราคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
ความงาม

5 ที่ดัดขนตา เนรมิตขนตาให้งอนสวย ดูเป๊ะมากขึ้น

by womensocool 11 มกราคม 2022
written by womensocool

การมีขนตาที่สวยงอนเป็นอีกหนึ่งความสวยงามที่ผู้หญิงหลาย ๆ คนต่างให้ความสนใจกับเรื่องนี้มาก เพราะเมื่อเรามีขนตางอนจะทำให้ดวงตาดูโตขึ้น และแน่นอนเลยว่านอกจากเครื่องสำอางนานาชนิดที่ผู้หญิงจะต้องมีแล้ว อีกหนึ่งอย่างที่หลายคนจะต้องมีนั่นก็คือ ที่ดัดขนตา หากคุณกำลังมองหาที่ดัดขนตาที่ดัดแล้วดูเป๊ะมากขึ้น วันนี้เรามี 5 ที่ดัดขนตามาฝากดังนี้ 

ขนตา

1.NATASHA DENONA Eye Lash Curler 

ที่ดัดขนตาที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานการผลิตมากที่สุด ทำให้เป็นที่ดัดขนตาที่สามารถใช้งานได้ง่าย ออกแบบการใช้งานรูปทรงสวยงาม ได้ง่ายรองรับรูปตาทุกแบบ ทั้งยังมาพร้อมแผ่นยางซิลิโคนเนื้อนุ่มทำให้ไม่เจ็บเวลาที่ดัดขนตาอีกด้วย 

2.Shiseido Eyelash Curler 

เป็นแบรนด์จากประเทศญี่ปุ่นที่ได้มีการออกแบบให้เหมาะกับการใช้งานมาก ๆ เรียกว่าเป็นที่ดัดขนตาที่สาว ๆ ต่างกำลังมองหากันเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยรูปแบบที่สวยงาม สามารถขนตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงมาก เพราะใคร ๆ ก็ต่างบอกว่านี่คือที่ดัดขนตาที่ดีที่สุด 

3.Shu Uemura New Generation Eyelash S Curler

เป็นอีกหนึ่งแบรนด์เครื่องสำอางที่ออกแบบที่ดัดขนตาได้สวยงามและน่าใช้มาก ๆ เพราะเป็นที่ดัดขนตาที่รองรับการใช้งานได้เฉพาะจุด ทำให้ผลลัพธ์ที่ได้สวยงาม และเป็นที่น่าพึงพอใจมากทีเดียว หากใครได้ใช้ต้องชอบแน่นอน เพราะใช้งานได้ง่าย ที่สำคัญคือไม่หนีบขนตา ทำให้ขนตาร่วงอีกด้วย

4.COSLUXE Eyelash Curler 

หากคุณกำลังมองหาที่ดัดขนตาที่ดีที่สุดเหมาะกับการใช้งานและตอบโจทย์ความต้องการได้อย่างดีเยี่ยม ต้องยี่ห้อนี้เลย ราคาไม่แพง ออกแบบได้สวยงามเหมาะกับสาว ๆ ทุกคน ช่วยให้มีขนตางอนสวย โดดเด่นกว่าใคร

5.LAURA MERCIER Artist Eyelash 

ที่ดัดขนตาที่มีความน่าสนใจมาก ๆ เนื่องจากมีการออกแบบมาได้อย่างสวยงาม พร้อมรับรูปทรงของดวงตาผู้หญิงได้ทุกรูปทรง เป็นที่ดัดขนตาที่ทำมาจากวัสดุที่ทนทาน แข็งแรง ใช้งานง่าย ไม่หนีบขนตาจนทำให้เจ็บอย่างแน่นอน 

ทั้งหมดนี้ก็เป็น 5 ที่ดัดขนตาที่เรานำมาฝาก ชื่นชอบแบบไหนกันบ้างก็ลองหาซื้อมาใช้กันดูได้เลย รับรองเลยว่าดัดขนตาสวย ตอบโจทย์ทุกความสวยงามตามที่คุณต้องการอย่างแน่นอน ที่สำคัญหมดกังวลเรื่องราคาไปได้เลย เพราะราคาจับต้องได้แบบสบายๆ เลยทีเดียว

11 มกราคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
บทความ

สีกระเป๋าสตางค์ เรียกทรัพย์ ใช้แล้วเงินปัง

by womensocool 10 มกราคม 2022
written by womensocool

 สำหรับความเชื่อเรื่องของ สีมงคลของกระเป๋าสตางค์นั้น เป็นความเชื่อ โดยการนำหลักฮวงจุ้ย และหลักการใช้สีมารวมกัน ซึ่งมีความเชื่อว่า กระเป๋าสตางค์นั้นเป็นของที่ไว้สำหรับเก็บเงินเมื่อคุณหาเงินมาได้ก็จะนำมาใส่ในกระเป๋า ทั้งนี้หากเลือกสีถูกโฉลกกับผู้ใช้ ก็จะสามารถเรียกความมั่งคั่งและร่ำรวยมายังเจ้ากระเป๋า มาดูกันค่ะว่าสีกระเป๋าสตางค์ไหนที่เหมาะสำหรับคุณฉันบ้าง 

สีกระเป๋าสตางค์

กระเป๋าสตางค์ สีดำ และ สีน้ำเงินเข้ม 

สีเหล่านี้เป็นตัวแทนของธาตุน้ำซึ่งสอดคล้องกับไตรักของความมั่งคั่ง กระเป๋าสตางค์สีดำเป็นสีที่ดีที่สุด เพราะจะช่วยดึงดูดความมั่งคั่ง ร่ำรวย และเป็นสีที่ผู้คนนิยมใช้กันมาก นอกจากนี้ยังแสดงถึงความก้าวหน้าในอาชีพการงานหรือธุรกิจอีกด้วย 

กระเป๋าสตางค์สีแดง

สีแดงเป็นสีแสดงถึงความโชคดีในด้านฮวงจุ้ย บ่งบอกถึงความคิดสร้างสรรค์ การมีพลัง ความกระฉับกระเฉง และความตื่นตัว แต่ในขณะเดียวกันสีแดงอาจเชื่อมโยงกับธาตุไฟ จะหมายความว่าคุณจะเก็บเงินไม่อยู่ ใช้เงินง่าย จ่ายเงินง่าย 

กระเป๋าสตางค์สีเขียว 

สีเขียวเป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบของไม้ แสดงถึงการเติบโตและพลังชี่แห่งชีวิต ยกตัวอย่างการเพิ่มต้นไม้ในบ้านหรืออพาร์ทเม้นท์จะช่วยให้การไหลเวียนของพลังงานบวกในพื้นที่ ทำให้ชีวิตของคุณดีขึ้น ดังนั้นเมื่อเป็นสีของกระเป๋าสตางค์ จึงสามารถช่วยเพิ่มโอกาสช่องทางในการหารายได้ของคุณ  รวมถึงการจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ความคิดริเริ่ม นำไปสู่ความมั่งคั่งในอนาคต

กระเป๋าสตางค์สีเหลืองสีน้ำตาลและสีเบจ 

สีเหล่านี้สอดคล้องกับองค์ประกอบของฮวงจุ้ย ซึ่งหมายถึงความมั่นคงและปลอดภัย เป็นรากฐานของความแข็งแกร่ง หากคุณกำลังมองหาความมั่นคงทางการเงิน สามารถนำสีเหล่านี้มาใช้ได้ โดยเฉพาะการใช้กระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล จะทำให้คุณเก็บเงินเก่งขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่อยากจะประหยัดค่าใช้จ่าย

กระเป๋าสตางค์สีชมพู

เป็นสีที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของความสัมพันธ์ การเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ความสดใส แต่ทั้งนี้อาจมุ่งไปในเรื่องของความรักมากกว่าเรื่องของการเงิน

นอกจากสีของกระเป๋าสตางค์จะมีผลต่อการเรียกทรัพย์แล้ว ตามหลักฮวงจุ้ยยังแนะนำเรื่องของการจัดกระเป๋าสตางค์ของคุณให้เหมาะสมด้วย เช่น หลีกเลี่ยงกระเป๋าสตางค์มือสอง พกเงินติดกระเป๋าสตางค์ไว้ทุกครั้งหลีกเลี่ยงกระเป๋าสตางค์ที่ว่างเปล่า จัดระเบียบกระเป๋าสตางค์อยู่เสมอเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการรับทรัพย์ นอกจากนี้คุณอาจเพิ่มความเป็นสิริมงคลในกระเป๋าสตางค์ของคุณเพิ่มไปได้ด้วย เช่น รูปที่เป็นมงคล หรือ เครื่องรางมงคลต่างๆ ผ้ายันต์ เหรียญจีน ริบบิ้นสีแดงเรียกทรัพย์ สิ่งของเหล่านี้ล้วนแต่เป็นของมงคลที่จะช่วยส่งเสริมให้โชคลาภมาสู่คุณได้อีกด้วย

10 มกราคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
บทความ

เงินขวัญถุง แบงค์มงคลเรียกทรัพย์

by womensocool 9 มกราคม 2022
written by womensocool

เงินขวัญถุง หรือเงินก้นถุง คือเงินที่เจ้าของตั้งใจเก็บเอาไว้โดยไม่คิดนำออกไปใช้จ่าย ซึ่งอาจได้มาจากหลายแหล่ง ขึ้นอยู่กับความเชื่อของแต่ละคน บ้างก็เป็นเงินจากผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือมอบให้ในงานมงคล เช่น บิดา มารดา ญาติ หัวหน้างาน หรือพระสงฆ์ และอาจได้รับจากเทศการสำคัญต่างๆ เก็บไว้เพื่อความเป็นสิริมงคล เชื่อกันว่าช่วยให้ชีวิตมีแต่ความเจริญรุ่งเรื่อง ทำมาค้าขายร่ำรวย เฮงเฮง เงินทองไหลเข้าไม่ไหลออก เก็บเงินได้นาน และงอกเงยเพิ่มพูนมากขึ้นจนกระเป๋าตุง  

เงินขวัญถุง

  การพกแบงค์เป็นขวัญถุงเรียกทรัพย์ตามวันเกิด จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เมื่อมีเงินมงคลนี้แล้ว การรู้วิธีเก็บอย่างถูกต้องก็จะช่วยเสริมแรงหนุน เรียกโชค เรียกลาภให้มากมียิ่งขึ้น

วันอาทิตย์

  เป็นคนมือเติบ ใช้เงินเก่ง แต่ก็หาเงินเป็น ทำให้มีสภาพคล่องตัวสูง ไม่ค่อยลำบากเรื่องเงินทองสักเท่าไร แต่ควรมีสติในการใช้จ่ายบ้าง ไม่งั้นอาจใช้เงินเกินตัวได้ ควรพกแบงค์ขวัญถุง โดยเลือกเลขลงท้าย 1-4-5-8

วันจันทร์

  เป็นคนที่ต้องใช้ความสามารถและเหนื่อยยากเข้าแลกกว่าจะได้เงินมา ทุกอย่างล้วนได้มาจากน้ำพักน้ำแรงโดยแท้จริง การลงทุนด้านที่ดิน อสังหาริมทรัพย์จะดีมาก ควรพกแบงค์ขวัญถุง โดยเลือกเลขลงท้าย 1-2-3-8

วันอังคาร

  เก็บหอมออมเงินเก่ง และใช้เงินเป็นระเบียบ แบ่งแยกประเภทการใช้ได้อย่างชัดเจน แต่เพราะนิสัยไม่อยู่นิ่ง ชอบคิดทำอะไรใหม่ๆ จึงควรระมัดระวังการใช้เงินให้ดี ควรพกแบงค์ขวัญถุง โดยเลือกเลขลงท้าย 1-4-5-7 

วันพุธ

  เป็นคนที่เก็บเงินเก่งมากๆ ไม่ค่อยใช้จ่ายอะไรฟุ่มเฟือย จึงมีเงินเหลือเยอะ แต่เพราะเป็นคนจิตใจดี ขี้เกรงใจ จึงมักถูกหยิบยืมเงินอยู่เสมอ ทำให้มีโอกาสสูญเงินเยอะ ควรพกแบงค์ขวัญถุง โดยเลือกเลขลงท้าย 1-2-3-7

วันพฤหัสบดี

  มีความคิดสร้างสรรค์สูง หัวการค้าดี รู้จักลงทุนต่อยอดทางธุรกิจ แต่มักใช้จ่ายเงินฟุ้งเฟ้อ มีโอกาสขาดสภาพคล่องได้มาก ควรพกแบงค์ขวัญถุง โดยเลือกเลขลงท้าย 1-2-5-8

วันศุกร์

  รู้จักหาเงินเก่ง หาได้เยอะ แต่ก็อาจเสียทรัพย์ไปกับของสวยๆ งามๆ หรือความบันเทิง เพราะนิสัยที่ละเมียดละไม ช่างเลือก ควรพกแบงค์ขวัญถุง โดยเลือกเลขลงท้าย 0-2-7

วันเสาร์

  มีแหล่งรายรับมาจากหลายทาง แต่ก็มีรายจ่ายเยอะรอบตัวเช่นกัน การคิดทำการใหญ่เป็นสิ่งดี แต่ก็ต้องละเอียดรอบคอบให้มาก ควรพกแบงค์ขวัญถุง โดยเลือกเลขลงท้าย 2-4-5-6 

  การพกแบงค์เรียกทรัพย์ตามวันเกิดเป็นความเชื่อส่วนบุคคคล ซึ่งบางท่านอาจไม่สะดวกที่จะใช้วิธีเหล่านี้ ดังนั้น การเลือกเลขมงคลที่ลงท้ายด้วย 56-65-59-95 ก็เป็นอีกวิธีที่ได้ผลเช่นกัน  ส่วนกระเป๋าสตางค์ที่จะช่วยเสริมความมั่งคั่งมั่งมีนั้น ควรดูแลให้อยู่ในสภาพใหม่เสมอ อย่าปล่อยให้เก่า หลุดลุ่ย หรือมีรอยฉีกขาด ไม่ควรใช้กระเป๋ามือสอง เพราะมีแต่พลังงานด้านลบ ส่งผลให้เงินทองรั่วไหล เก็บเงินไม่อยู่ เงินไหลเข้ามายังไม่ทันอุ่น ก็มีอันให้ต้องไหลออกซะแล้ว สภาพกระเป๋าใบเก่าที่หลุดลุ่ยยับเยิน ยังทำให้บุคลิกภาพของเจ้าของดูไม่ดี ที่สำคัญ อย่าปล่อยให้กระเป๋าว่างเปล่า เพราะหมายถึงความอุดมสมบูรณ์นั่นเอง

9 มกราคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
สุขภาพ

บำรุงสุขภาพ ด้วยน้ำผลไม้ ที่ดีต่อสุขภาพ 7 ชนิด

by womensocool 8 มกราคม 2022
written by womensocool

ผลไม้เป็นอาหารประเภทหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายไม่น้อยเลยทีเดียว เนื่องจากผลไม้มีวิตามินที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพที่ดีได้ ตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก ซึ่งผลไม้ก็จะมีหลากหลายชนิดด้วยกัน แต่หากใครที่รู้สึกเบื่อผลไม้ อยากดื่มน้ำผลไม้ เพื่อสุขภาพ วันนี้เรามี 7 น้ำผลไม้ช่วยบำรุงสุขภาพมากฝากดังนี้ 

บำรุงสุขภาพ

1.น้ำสับปะรด

เป็นน้ำผลไม้ที่มีผลดีต่อระบบทางเดินหายใจอย่างมาก นอกจากนี้ก็ยังช่วยในเรื่องการบรรเทาอาการเจ็บคอ ช่วยลดเสมหะ และด้วยการที่สับปะรดเป็นผลไม้ที่มีวิตามินซีสูงอยู่แล้ว จึงสามารถช่วยในเรื่องของการรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันได้ดีมาก ๆ อีกด้วย 

2.น้ำแอปเปิ้ล

น้ำแอปเปิ้ลจะช่วยบำรุงสมอง ช่วยเสริมความจำและยังสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ทำให้ไม่เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดความจำเสื่อม และยังช่วยให้จิตสงบได้ดีทีเดียว

3.น้ำแตงโม

น้ำแตงโมที่มีรสชาติอร่อยดื่มบ่อย ๆ ช่วยบำรุงทั้งผิวและเส้นผมให้แข็งแรง และไม่เพียงแค่นี้เพราะยังช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งอีกด้วย ช่วยบำรุงสายตา และที่สำคัญสามารถล้างสารพิษจากอาหารที่เรากินเข้าไปได้

4.น้ำลูกพรุน 

ในน้ำลูกพรุนจะมีกากใยที่ค่อนข้างสูง ช่วยในเรื่องของระบบการขับถ่าย ทำให้สามารถขับถ่ายได้คล่อง ลดอาการท้องผูกที่สำคัญสามารถช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงได้ด้วย แต่ก็ควรดื่มอย่างระมัดระวังในผู้ป่วยโรคไตวาย

5.น้ำแครอท 

น้ำแครอทไม่ได้เป็นแค่ผักที่นำมาประกอบอาหารเท่านั้น การดื่มน้ำแครอทเป็นประจำจะช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อ่อนเยาว์ และช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่เกิดจากสิวให้กลับมาสวยกระชับมากขึ้น ไม่เพียงแค่นี้เพราะยังช่วยในเรื่องของระบบการขับถ่ายให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น 

6.น้ำองุ่น 

ผลไม้ที่มีรสหวานอมเปรี้ยว มีประโยชน์ไม่น้อยเลยเดียว โดยการดื่มน้ำองุ่นจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งได้ ทั้งยังช่วยต้านเชื้อแบททีเรีย ทำให้ไตสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7.น้ำส้ม

นอกจากการทานผลไม้สดจะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินต่าง ๆ ที่ดีต่อสุขภาพแล้ว การดื่มน้ำส้มคั้นสดก็ยังช่วยให้ร่างกายได้รับประโยชน์ไม่น้อยเลยทีเดียว โดยการดื่มน้ำส้มจะช่วยบำรุงรากผมให้แข็งแรง และช่วยกระตุ้นการงอกใหม่ของผมได้ดีทีเดียว

ทั้งหมดนี้ก็เป็นน้ำผลไม้เพื่อสุขภาพที่หากดื่มเป็นประจำจะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีอย่างแน่นอน ทั้งยังทำให้รู้สึกสดชื่นตลอดเวลาอีกด้วย ชื่นชอบน้ำผลไม้อะไรกันบ้างก็สามารถหาลองซื้อมาไว้ดื่มกันได้เลย

8 มกราคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
สุขภาพ

ไอเป็นเลือด อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

by womensocool 7 มกราคม 2022
written by womensocool

ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนเลยว่า ไอเลือด คือ อาการที่เกิดจากความผิดปกติที่เกิดขึ้นเมื่อทางเดินหายใจหรือปอดผิดปกติ ซึ่งก็จะมีหลายสาเหตุด้วยกัน ส่งผลทำให้เกิดอาการไอเป็นเลือด ซึ่งหลายคนมองข้ามอาการนี้เพียงเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่อันตราย แต่จริง ๆ อาการไอออกเลือดนั้นเป็นอาการที่ไม่ควรมองข้ามเด็ดขาด เพราะอันตรายกว่าที่คิดแน่นอน เรามาเช็คกันว่าจริง ๆ แล้วมีสาเหตุเกิดจากอะไร

ไอเป็นเลือด เกิดจากอะไร

ไอเป็นเลือด เกิดจากอะไรกันแน่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ไอเป็นเลือดมีสาเหตุดังนี้

1.อาการระคายเคืองเมื่อมีอาการไอที่มากจนเกินไป ซึ่งการสูบบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอาการไอบ่อย  จนเกิดการระคายเคืองจนนำไปสู่การไอเป็นเลือดได้ 

2.หลอดลมพอง เกิดจากภาวะหลอดลมขยายตัวผิดปกติ เมื่อมีการผลิตเมือกที่มากจนเกินไปทำให้เกิดเป็นเสมหะจำนวนมาก ส่งผลทำให้ระบบทางเดินหายใจอักเสบ และเกิดอาการไอร่วมด้วย จนกลายเป็นไอเลือด

วิธีการรักษา

การรักษาจะรักษาแตกต่างกันออกไปตามสาเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งหากเป็นอาการที่ไม่รุนแรงมากนักแพทย์ก็จะทำการรักษาด้วยการให้ยาแก้ไอ เพื่อบรรเทาอาการในเบื้องต้น แต่ในกรณีที่มีอาการรุนแรงแพทย์ก็จะพิจารณาการรักษาตามอาการที่เหมาะสม เช่น ไอเป็นเลือดไม่รุนแรง หากปอดไม่มีความผิดปกติ ก็จะรักษาด้วยยาเฉพาะที่ หรือไอเป็นเลือดรุนแรง และมีความเสี่ยงสูงต่อการเสียชีวิตก็จะรักษาด้วยการควบคุมอาการด้วยเทคนิคทางการแพทย์ และการผ่าตัด 

วิธีการป้องกัน

โดยส่วนใหญ่ที่พบอาการไอเป็นเลือดนั้นมักจะมีอาการที่ไม่รุนแรงมาก แต่หากเป็นไปได้ก็ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นจะดีกว่า ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคไอเป็นเลือดแนะนำว่าควรดูแลตนเองด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สร้างภูมิคุ้มกันให้ตนเอง หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ระวังการสูดดมสารเคมีหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ โดยเฉพาะในเด็กและคนที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ ที่สำคัญเลือกทานอาหารที่ดีและมีประโยชน์ เพื่อจะได้มีสุขภาพที่ดีและไม่เสี่ยงต่อการเกิดโรคได้ง่าย 

ไอ

อาการไอเป็นเลือดนั้นเป็นอาการที่เกิดขึ้นกับทุกคน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเกิดขึ้นได้ง่าย ๆ หากทุกคนดูและตนเองดี เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อสุขภาพที่ดีและเพื่อเป็นการป้องกันการเกิดโรคแนะนำว่าควรดูแลสุขภาพให้ดีอยู่ตลอดเวลา รับรองคุณจะมีสุขภาพที่แข็งแรงและโอกาสที่จะเกิดอาการไอเป็นเลือดก็มีน้อยแน่นอน หรืออาจะไม่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเลยก็ได้

7 มกราคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
ความงามบำรุงผิว

4 วิธีแก้ปัญหารูขุมขนกว้าง ทำให้ผิวเนียนสวย

by womensocool 6 มกราคม 2022
written by womensocool

ทำยังไงดี เมื่อรูขุมขนกว้าง เรียกได้ว่าเป็นปัญหาหนักสำหรับสาวๆ หลายคนเลยทีเดียว เพราะจะทำให้ผิวหน้าดูไม่เรียบเนียน บางคนเห็นชัดถึงรูขุมขนจึงทำให้ขาดความมั่นใจเป็นอย่างมาก แล้วจะทำอย่างไรดีให้ปัญหานี้หมดไป ไม่ใช่เรื่องยาก วันนี้เรามีเคล็ดลับกำจัดรูขุมขนกว้าง ให้ผิวหน้าเนียนสวย กระชับ มาฝากกันแล้ว

รูขุมขนกว้าง

1.ล้างหน้าด้วยน้ำเย็น

หลายคนชอบล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น แต่รู้ไหมว่านั่นจะทำให้รูขุมขนกว้างมากกว่าเดิม ซึ่งหากต้องการให้รูขุมขนกระชับละก็ จะต้องล้างหน้าด้วยน้ำเย็นหรือน้ำที่อุณหภูมิปกติจะดีที่สุด เพราะจะทำให้รูขุมขนเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด ทั้งนี้ควรล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดี และผิวหน้าที่สะอาดหมดจด

2.ประคบด้วยน้ำแข็ง

รู้ไหมว่าน้ำแข็งนี่แหละจะช่วยกระชับรูขุมขนได้ดีมาก โดยนำน้ำแข็งมาถูวนบนใบหน้า ทำแค่วันละ 2 ครั้งเช้าเย็นก็พอ เมื่อทำเป็นประจำจะได้ผลลัพธ์ที่โดนใจ รูขุมขนดูเล็กลง แถมผิวหน้าก็กระชับเต่งตึงขึ้นอีกด้วย เป็นวิธีที่ทำง่ายมากแถมไม่ต้องลงทุนอะไรมากมายเลย

3.สครับผิวด้วยสูตรธรรมชาติ

การสครับผิวก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยให้รูขุมขนเล็กลงได้ หมดกังวลกับปัญหารูขุมขนกว้างไปได้เลย ซึ่งวิธีนี้จะมีสูตรสครับจากธรรมชาติหลากหลายสูตรให้เลือกใช้ได้ โดยเราขอแนะนำสูตรสครับด้วยโยเกิร์ตนำมาผสมกับเกลือทะเล แล้วทาให้ทั่วใบหน้า ใช้นิ้วมือถูวนเบาๆ ทำประมาณ 3 นาทีก็ล้างออกได้เลย ซึ่งควรทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง จะได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก

4.ทาครีมที่ช่วยกระชับรูขุมขน

ลองหาครีมที่มีส่วนช่วยในการกระชับรูขุมขนมาใช้กันดู จะทำให้รูขุมขนเล็กลง ผิวหน้าดูเรียบเนียนขึ้น ซึ่งทุกวันนี้ก็มีครีมมากมายหลายยี่ห้อ สามารถเลือกใช้ได้เลย แต่อาจจะต้องเลือกให้เหมาะกับสภาพผิวของตัวเองสักหน่อย จะได้ไม่เกิดการแพ้ตามมานั่นเอง

รูขุมขนกว้างอาจเป็นปัญหาที่สร้างความหนักใจให้กับสาวๆ เป็นอย่างมาก แต่ก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้ไม่ยากเลย เพียงทำตามวิธีที่เราแนะนำไป ก็จะช่วยลดรูขุมขนให้แคบลง และทำให้ผิวหน้าเรียบเนียน สวยขึ้นแล้ว ดังนั้นใครที่กำลังกังวลกับรูขุมขนที่กว้างจนเห็นได้ชัด ก็ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดู แล้วคุณจะได้ผลลัพธ์ที่โดนใจ ไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

6 มกราคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
ความงามบำรุงผิว

4 อาหารบำรุงผิวจากธรรมชาติ

by womensocool 5 มกราคม 2022
written by womensocool

อยากมีผิวสวยสร้างได้ไม่ยาก แค่กินอาหารบำรุงผิว ที่จะช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวของคุณให้สวยใสจากภายใน ผิวแลดูมีสุขภาพดีได้อย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องเข้าคอร์สดูแลผิวราคาแพงเลยทีเดียว ซึ่งรู้ไหมว่าอาหารจากธรรมชาติก็มีสารอาหารที่สำคัญต่อผิวเช่นกัน เพียงกินบ่อยๆ กินเป็นประจำก็จะทำให้ผิวสวยได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยมี 4อาหารที่เราอยากแนะนำดังนี้

บำรุงผิว

1.แอปเปิ้ล

แอปเปิ้ลไม่ได้ขึ้นชื่อในเรื่องของการควบคุมน้ำหนักเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงผิวได้ด้วย เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ลงฟื้นฟูและซ่อมแซมผิวในส่วนที่สึกหรอให้ผิวมีสุขภาพดียิ่งขึ้น แต่เพื่อให้ได้ประโยชน์อย่างสูงสุด ควรกินแอปเปิ้ลแบบไม่ปอกเปลือก เพราะสารอาหารส่วนใหญ่จะอยู่ที่เปลือกของแอปเปิ้ลนั่นเอง

2.แตงกวา

แตงกวา มีส่วนช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพราะเป็นผักที่มีน้ำเยอะ ทำให้ผิวเต่งตึง เนียนนุ่ม ไม่เกิดริ้วรอยได้ง่าย และยังช่วยในการดีท็อกซ์ได้เป็นอย่างดี สามารถกินสดๆ หรือจะนำไปประกอบอาหารเป็นเมนูต่างๆ ก็ได้แต่การกินแบบสดๆ จะได้ประโยชน์และคุณค่าสารอาหารจากแตงกวามากกว่า นอกจากนี้ยังสามารถนำมามาร์คหน้าบำรุงผิว หรือนำมาแปะที่เปลือกตา เพื่อลดความอ่อนล้าของดวงตาได้ดีอีกด้วย

3.ชาเขียว

ชาเขียว จัดว่าเป็นพืชสมุนไพรที่มีประโยชน์อย่างมาก เพราะอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดการเกิดริ้วรอย ลดการอักเสบของผิว เพิ่มความแข็งแรงพร้อมปกป้องผิวจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี ใครที่ดื่มชาเขียวเป็นประจำจะทำให้มีผิวสวยจากภายในสู่ภายนอกอย่างเห็นได้ชัด แต่ต้องเป็นชาเขียวแบบชง และยิ่งหากเป็นใบชาเขียวจากต้นด้วยแล้วจะดีมาก 

4.มะเขือเทศ

เมื่อพูดถึงอาหารบำรุงผิว ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คงจะเป็นมะเขือเทศนี่แหละ เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน E และ วิตามิน C ที่มีความสำคัญต่อผิวเป็นอย่างมาก โดยจะทำให้ผิวขาวกระจ่างใส ลดจุดด่างดำ รอยสิว เพิ่มความชุ่มชื่นและชะลอการเกิดริ้วรอยได้อย่างดีเยี่ยม จนถูกเรียกว่าเป็นราชินีแห่งการบำรุงผิวเลยทีเดียว โดยแนะนำให้นำมาปั่นเป็นน้ำมะเขือเทศดื่มจะได้ประโยชน์ดีมาก

ใครอยากมีผิวสวยก็ลองกินอาหารบำรุงผิวทั้ง 4 ชนิดนี้กันดู จะช่วยให้ผิวของคุณขาวสวยกระจ่างใสจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างแน่นอน แถมยังดีต่อสุขภาพกายอีกด้วย ยิ่งกินยิ่งได้ประโยชน์แบบจัดเต็มกันเลยทีเดียว

5 มกราคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
ความงามบำรุงผิวสุขภาพ

บอกลาขอบตาดำคล้ำ ด้วย 5 วิธีสุดง่าย

by womensocool 4 มกราคม 2022
written by womensocool

ขอบตาดำคล้ำเป็นหมีแพนด้า อาจจะทำให้สาวๆ เสียความมั่นใจได้ ปัญหาขอบตาดำคล้ำเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการอดนอน ความเครียด หรือโรคภูมิแพ้ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะหาสาเหตุไม่ได้ อย่างไรก็ตามหากสาวๆ กำลังประสบกับปัญหาขอบตาดำคล้ำไม่สดใส บอกลาปัญหานี้ด้วยวิธีสุดง่ายดังต่อไปนี้ได้เลย

ขอบตาดำคล้ำ

1.มาส์กใต้ดวงตา

บอกลาปัญหาขอบตาดำคล้ำด้วยวิธีมาส์กหน้า ซึ่งก็มีให้เลือกหลายสูตรด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นมาส์กด้วยแตงกวา มาส์กด้วยว่านหางจระเข้ หรือมาส์กด้วยมะเขือเทศ เป็นต้น วิธีทำก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรเพียงแค่นำ แตงกวา,มะเขือเทศ หรือว่านหางจระเข้ มาหั่นบางๆ แล้วนำไปแช่เย็น จากนั้นนำมาประคบบริเวณรอบดวงตาจะช่วยให้หลอดเลือดหดตัวลงทำให้รอบดวงตาชุ่มชื้นและขอบตาที่ดำคล้ำดูจางลง

2.ใช้แผ่นเจลเย็นปิดตา

แผ่นเจลเย็นเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะช่วยบรรเทาในเรื่องของการอักเสบซึ่งคน ที่เพิ่งศัลยกรรมใหม่ๆ แพทย์มักจะแนะนำให้ใช้แผ่นเจลเย็นประคบเพื่อลดการอักเสบของผิวหนัง รวมถึงคนที่มีปัญหารอบดวงตาดำคล้ำก็เช่นกัน สามารถนำแผ่นเจลเย็นแช่เย็นมาประคบบริเวณรอบดวงตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัว และยังช่วยถนอมหลอดเลือดรอบดวงตา ลดอาการขอบตาดำคล้ำได้ดีอีกด้วย

3.เพิ่มการไหลเวียนโลหิตรอบดวงตา

การนวดบริเวณรอบดวงตาหลังจากที่เพิ่งตื่นนอน โดยการนวดจากซ้ายไปขวาวนซ้ำๆ ประมาณ 10  ครั้งจะช่วยให้เกิดการไหลเวียนโลหิตรอบดวงตาได้ดี ไม่ไปกระจุกอยู่บริเวณรอบดวงตาที่เป็นสาเหตุดำคล้ำ

4.ทาครีมบำรุงใต้ตา

การใช้ครีมบำรุงบริเวณรอบดวงตาที่มีส่วนผสมของไวท์เทนนิ่งก็จะช่วยให้รอยดำคล้ำรอบดวงตาดูจางลงได้ ซึ่งในปัจจุบันนั้นก็มีครีมที่ช่วยในเรื่องขอบตาดำคล้ำเสียให้เลือกมากมายหลากหลายยี่ห้อ ควรเลือกครีมบำรุงที่ดีมีมาตรฐานได้รับการรับรองจาก อย.เท่านั้น เพราะบริเวณขอบตาคือจุดที่บอบบางหากเลือกครีมไม่ดีอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ และอาจส่งผลให้ขอบตาดำคล้ำลงมากกว่าเดิม

5.ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ดวงตาเป็นวิธีที่แก้ปัญหาขอบตาดำคล้ำได้ผลมากที่สุด เพราะฟิลเลอร์จะช่วยปกปิดและช่วยสลายรอยคล้ำใต้ดวงตาได้ดี อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวใต้ดวงตาทำให้ดูกระจ่างใส สดชื่นขึ้นได้อย่างรวดเร็วปัญหาขอบตาดำส่วนใหญ่มักมาจากสาเหตุของการนอนดึกพักผ่อนไม่เพียงพอ เพราะฉะนั้นสาวๆ ที่มีปัญหาเรื่องขอบตาดำคล้ำเสีย ควรหมั่นดูแลตัวเองโดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ และเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างเช่น ผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยวิตามิน E และ C หมั่นออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงแสงแดดโดยตรง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ขอบตาที่ดำคล้ำเสียกลับมาสวยใสไร้รอยดำได้แล้ว

4 มกราคม 2022 0 comment
0 FacebookTwitterPinterestEmail
  • 1
  • 2
  • 3
  • 4

ติดตามเรา

Facebook Twitter Instagram Youtube

หมวดหมู่

  • ความงาม (12)
  • ทรงผมผู้หญิง (2)
  • บทความ (2)
  • บำรุงผิว (6)
  • สุขภาพ (24)
  • เครื่องสำอาง (1)
  • ไม่มีหมวดหมู่ (286)

ผู้สนับสนุนเว็บ

  • horoupdate.com
  • lifestyledd.com
  • petssocool.com
  • travelsocool.com
  • sexlifesocool.com
  • seriesocool.com

บทความโดดเด่น

  • 1

    เคล็ดลับผิวสวย ผิวดูสุขภาพดี ที่ใครเห็นก็ต้องตกหลุมรัก

    4 ธันวาคม 2021
  • 2

    5 ที่ดัดขนตา เนรมิตขนตาให้งอนสวย ดูเป๊ะมากขึ้น

    11 มกราคม 2022
  • 3

    ไอเป็นเลือด อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

    7 มกราคม 2022
  • 4

    สีกระเป๋าสตางค์ เรียกทรัพย์ ใช้แล้วเงินปัง

    10 มกราคม 2022

womensocool แนะนำ

  • 6 อาหารคุมน้ำตาลในเลือด เหมาะกับคนเป็นเบาหวานที่สุด

    13 มกราคม 2022
  • น้ำมูกสีไหน บอกอะไรบ้าง คุณกำลังป่วยเป็นอะไรกันแน่

    12 มกราคม 2022
  • 5 ที่ดัดขนตา เนรมิตขนตาให้งอนสวย ดูเป๊ะมากขึ้น

    11 มกราคม 2022
  • สีกระเป๋าสตางค์ เรียกทรัพย์ ใช้แล้วเงินปัง

    10 มกราคม 2022
  • Facebook
  • Twitter
  • Instagram
  • Youtube

@2020 - All Right Reserved. Designed and Developed by womensocool.com


Back To Top